หน้าหลัก|ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย » ทำความเข้าใจในบทความเดียวว่าสัญญาจ้างทำของคืออะไร แตกต่างยังไงกับสัญญาจ้างและหนังสือมอบอำนาจ

ทำความเข้าใจในบทความเดียวว่าสัญญาจ้างทำของคืออะไร แตกต่างยังไงกับสัญญาจ้างและหนังสือมอบอำนาจ

สัญญาจ้างทำของคืออะไร มีความแตกต่างอะไรกับสัญญาจ้างและหนังสือมอบอำนาจ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงความสำคัญของสัญญาจ้างทำของ

สัญญาจ้างทำของ คืออะไร แล้วแตกต่างยังไงกับสัญญาจ้าง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาจ้างทำของ รวมถึงหากเราต้องการจ้างแม่บ้าน จ้างคนรักษาความปลอดภัย หรือจ้างแม่ครัวจะสามารถใช้สัญญาจ้างทำของในการให้บุคคลเหล่านั้นทำงานได้ไหม และยังมีเทมพลตสัญญาจ้างทำของให้คุณได้ดูเป็นตัวอย่าง หากคิดว่ามีความยุ่งยากในการทำสัญญาจ้างทำของ สามารถให้ Lawsnote DocPie ช่วยทำให้การจ้างทำของคุณง่ายขึ้น

Table of Contents

1.สัญญาจ้างทำของคืออะไร พาคุณไปเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง

ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ผู้คนมากมายเลือกที่จะลาออกจากงานประจำมาเป็นฟรีแลนซ์ และรับงานเคต่อเคสด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้ว่าจ้างหรือผู้รับจ้าง ก็ล้วนแต่ต้องเซ็น “สัญญาจ้างทำของ” 

ตามประมวกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 7 ว่าด้วย จ้างทำของ มาตรา 587 “อันว่าจ้างทำของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น”

ดังนั้นแล้ว สัญญาจ้างทำของ คือ ลักษณะของสัญญาที่ผู้รับจ้างมีหน้าที่จะต้องสำเร็จงานที่รับจ้างมานั้นให้สำเร็จเป็นเคส โดยจะมุ่งเน้นไปที่ผลสำเร็จของงาน หากสำเร็จงานที่ผู้ว่าจ้างให้มาแล้วก็ถือว่าจบนิติสัมพันธ์ในฐานะผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ไม่ได้มีหน้าที่จะต้องทำงานให้แก่ผู้ว่าจ้างต่อไป 

เช่น เอ (ผู้ว่าจ้าง) ไปว่าจ้าง บี (ผู้รับจ้าง) ให้ออกแบบโลโก้ของสินค้าให้ ดังนี้ บีมีหน้าที่ ที่จะต้องออกแบบโลโก้ให้เสร็จตามระยะเวลาในการส่งมอบ งาน รูปแบบของงาน ตามจุดประสงค์ของผู้ว่าจ้างให้เสร็จ ตามข้อตกลงในสัญญาจ้างทำของ ลักษณะงานประเภทนี้มีข้อดีที่ไม่มีเวลาเริ่มทำงานและเลิกงานเหมือนสัญญาว่าจ้างงานทั่วไป มีความอิสระในการแต่งตัวและเวลาที่เลือกจะทำงาน โดยมีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือทำงานและมอบหมายงานให้ตรงตามเวลาที่กำหนดของสัญญาจ้างทำของที่ได้ตกลงไว้

เนื้อหาที่ควรระบุในสัญญาจ้างทำของ

(1) เนื้อหางานที่ต้องทำให้เสร็จ

องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในสัญญาจ้างทำของ คือการระบุเนื้อหาและขอบเขตของงานที่ผู้รับจ้างต้องทำให้เสร็จให้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น หากบริษัทหนึ่งต้องการโปรโมทสินค้าและไปจ้างบุคคลภายนอกในเรื่องการออกแบบเพื่อการโปรโมทหรือโฆษณาการขายสินค้าในบริษัท สัญญาจ้างทำของ ดังกล่าว ก็ควรระบุรายการและข้อกำหนดของเนื้อหาการโปรโมทหรือโฆษณาการขายสินค้าชิ้นนั้นอย่างชัดเจน ในส่วนของผู้รับจ้าง ก็จำเป็นที่จะต้องระบุเนื้อหาในการแก้งานว่าจะสามารถมีได้กี่ครั้ง หรือ ต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้างจากผู้ว่าจ้าง ฯลฯ

(2) กำหนดระยะเวลาส่งมอบงาน

ควรกำหนดเวลาส่งมอบงานให้ชัดเจนในสัญญาจ้างทำของ และจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อนกำหนดระยะเวลาที่ส่งมอบงาน เช่น ความซับซ้อนของงาน ความเป็นไปได้ ความสามารถในการปฏิบัติงาน เป็นต้น หากกำหนดเวลานานเกินไปอาจเสียเวลาและทรัพยากร หรือหากกำหนดเวลาสั้นเกินไปก็อาจทำให้เกิดแรงกดดันต่อผู้รับจ้างมากเกินไปและส่งผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของงาน

(3) ค่าตอบแทนของผู้รับจ้างและระยะเวลาการผ่อนชำระในแต่ละงวด

ควรระบุวิธีการจ่ายค่าตอบแทนและระยะเวลาส่งมอบงวดแต่ละงวดไว้ในสัญญาอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้รับจ้างได้รับค่าตอบแทนตรงเวลา และเพื่อให้ผู้ว่าจ้างสามารถควบคุมงบประมาณและแผนทางการเงินได้ดีขึ้น

(4) ระยะเวลาที่สามารถสอบถามความคืบหน้าและตรวจสอบเนื้อหางาน

โดยปกติแล้ว การตรวจสอบความคืบหน้าของงานจะดำเนินการเป็นประจำในระหว่างกระบวนการทำงาน แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายควรระบุเวลาที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเนื้องานเพื่อให้แน่ใจว่างานจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและบรรลุเป้าหมายตามที่คาดหวัง

(5) ผลที่ตามมาของการผิดสัญญาจ้างทำของไม่ว่าจะเป็นส่วนของผู้ว่าจ้างหรือผู้รับจ้าง

เมื่อเข้าสู่ความสัมพันธ์ตามสัญญา มีหลายปัจจัยที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อสัญญาที่กำหนดไว้ตอนแรก เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ขอแนะนำให้ระบุรายละเอียดเงื่อนไขการผิดนัดชำระหนี้และผลที่ตามมาโดยละเอียดใน สัญญาจ้างทำของ เช่น หากผู้รับจ้างไม่ส่งมอบผลงานตามกำหนดก็อาจต้องชำระค่าเสียหายที่จ่ายชำระไปในงวดก่อนแล้ว หากผู้ว่าจ้างไม่สามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นในเนื้อหางานได้และส่งผลให้ไม่สามรถเริ่มงานได้ภายในเวลาที่กำหนด เดดไลน์เดิมที่ระบุในสัญญาจ้างทำของก็จะขยายออกไปโดยปริยาย

(6) กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของผลงานชิ้นงานที่ทำเสร็จ

เมื่อผู้รับจ้างทำงานเสร็จแล้ว ผลงานที่เสร็จมักจะมีมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา เช่น โปสเตอร์ที่ทำเสร็จแล้ว Application ที่พัฒนาแล้ว เป็นต้น ดังนั้น สัญญาจ้างทำของจึงต้องกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของผลงานเหล่านั้นว่าจะตกเป็นของผู้ว่าจ้างหรือผู้รับจ้าง เพื่อให้แน่ใจถึงสิทธิและผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย

เนื้อหาที่ควรระบุในสัญญาจ้างทำของ

2. สัญญาจ้างแม่ครัว จ้างทำความสะอาด จ้างแม่บ้าน หรือ สัญญาจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัย สามารถใช้สัญญาจ้างทำของได้ไหม

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะเกิดคำถามว่าแล้วสัญญาจ้างแม่ครัว จ้างทำความสะอาด จ้างแม่บ้าน หรือ สัญญจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัย สามารถใช้แบบของสัญญาจ้างทำของได้ไหม 

คำตอบคือได้อย่างแน่นอน เพราะ สัญญาจ้างทำของจากที่ได้กล่าวไปในข้างต้น คือ การที่ผู้ว่าจ้าง จ้างให้ผู้รับจ้างทำงานให้สำเร็จเสร็จสิ้นตามที่ระบุไว้ในสัญญาและชำระเงินส่งมอบงานตามที่กำหนด ดังนี้จึงถือว่าเป็นการทำตามสัญญาแล้ว ไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นนายจ้างและลูกจ้างที่ต่อให้งานเสร็จก็ยังคงความสัมพันธ์นั้นไว้

อย่างไรก็ดีสัญญาจ้างทำของ จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับงานที่ต้องการให้ทำ, ระยะเวลาที่จะให้สำเร็จงาน, ค่าจ้าง, เงื่อนไขการยกเลิกสัญญา, และข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการนั้น ๆ ดังนั้นก็ได้ 

สัญญาจ้างทำของกับการลาออก

หากผู้รับจ้างยังไม่ได้ทำงานชิ้นนั้นให้สำเร็จลุล่วง แต่ไม่ประสงค์จะทำต่อแล้วหรือต้องการลาออกในหน้าที่นั้น ควรดำเนินการตามกฎหมายและขั้นตอนที่กำหนดไว้ในสัญญาเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น ขั้นแรกควรตรวจสอบสัญญาและดูว่ามีข้อบังคับหรือเงื่อนไขใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลาออกหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการแจ้งลาออกล่วงหน้า หากมีข้อบังคับเหล่านั้น ผู้รับจ้างควรปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นอย่างเคร่งครัด และหากไม่มีข้อบังคับเพิ่มเติมในสัญญา ควรแจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบล่วงหน้าในเขตเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการหาคนแทนและประสานงานเพื่อการสิ้นสุดงานอย่างสุภาพเรียบร้อย การกระทำอย่างนี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างไม่เสียหาย และลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

3. สัญญาจ้างทำของกับสัญญาจ้างหรือหนังสือมอบอำนาจต่างกันอย่างไร

หากค้นหาเทมพลตทั่วไปเกี่ยวกับ สัญญาจ้างทำของ สัญญาว่าจ้างแรงงาน หรือ หนังสือมอบอำนาจนั้น ก็อาจจะเกิดความสับสนไม่เข้าใจว่าเราควรเลือกใช้ประเภทของสัญญาฉบับไหน ดังนั้นแล้ว เพื่อความตอบโจทย์และถูกจุดประสงค์ของการใช้งาน บทความด้านล่างนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของหนังสือสัญญาทั้งสามประเภทนี้

3.1ความแตกต่างระหว่างสัญญาจ้างทำของกับสัญญาจ้าง

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 บัญญัติว่า “อันว่าสัญญาจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ลูกจ้าง ตกลงทำงานให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะจ่ายสินจ้างให้ตลอดระยะเวลาที่ทำงานให้” 

ดังนั้นแล้วสัญญาว่าจ้างและสัญญาจ้างทำของ จึงแตกต่างกันที่ลักษณะของความสัมพันธ์ระหว่างคู่สัญญา สัญญาจ้างทำของพันธะสัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อผลของจุดประสงค์สัญญาจบลง กล่าวคือ เมื่องานเสร็จชำระเงินจบ ก็ถือได้ว่าสัญญานั้นจบลง แต่สัญญาว่าจ้างนั้นไม่ใช่ ต่อให้งานชิ้นนั้นจะสำเร็จลงแล้วก็ยังคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ของลูกจ้างและนายจ้าง และจะจบลงก็ต่อเมื่อระยะเวลาของสัญญาจ้างนั้นสิ้นสุดลง ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า สัญญาจ้างทำของมุ่งเน้นไปที่การให้บริการหรือการทำงานเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ตามเนื้อหาของสัญญาว่าจ้าง และความสัมพันธ์จะยุติลงทันทีเมื่อบรรลุผลสำเร็จ ในขณะที่สัญญาจ้างมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์การทำงานระหว่างลูกจ้างและนายจ้างในรูปแบบทางกฎหมายและความรับผิดชอบต่อให้ทำงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งจนเสร็จก็ยังไม่ยุตินิติสัมพันธ์รวมทั้งสามารถให้สิทธิพิเศษต่อไปได้ เช่นการ เลื่อนขั้น โบนัส เป็นต้น

3.2 ความแตกต่างระหว่างสัญญาจ้างทำของกับหนังสือมอบอำนาจ

อ้างอิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797 การมอบอำนาจ หมายถึง “การที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดที่มีอำนาจในทางกฎหมาย ในเรื่องหนึ่งเรื่องใดโดยชอบ และมอบให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นผู้ใช้อำนาจนั้นแทนตนเอง เป็นการเฉพาะเรื่อง หรือเป็นการทั่วไปภายในขอบเขตอำนาจที่ผู้มีอำนาจนั้นมี และภายในขอบเขต” จากข้างต้นก็จะเห็นได้ว่าหนังสือมอบอำนาจเป็นการ มอบอำนาจของนให้กับอีกฝ่ายเพื่อไป “กระทำการแทน” ตามขอบเขตอำนาจที่ได้รับ แต่สัญญาจ้างทำของนั้น คือการที่ผู้ว่าจ้าง “จ้าง” ให้ผู้รับจ้างทำหน้าที่ตามเนื้อหาที่ได้ว่าจ้างไว้ให้สำเร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างทำของให้สำเร็จ

ดังนั้นแล้ว หนังสือมอบอำนาจต่างกับสัญญาจ้างทำของตรงที่ มอบอำนาจให้อีกฝ่ายกระทำการแทนตนเองตามขอบเขตของอำนาจเฉพาะเรื่องและไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ผลสำเร็จของเรื่องที่มอบอำนาจ

สัญญาจ้างทำของกับสัญญาจ้างหรือหนังสือมอบอำนาจต่างกันยังไง

4. ไม่รู้จะเริ่มทำสัญญาจ้างทำของยังไงใช่ไหม Lawsnote DocPie มีบริการทำหนังสือสัญญาจ้างทำของขึ้นใหม่เพื่อคุณ

ค้นหาคำในกูเกิลจนท้อใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็น แบบฟอร์ม สัญญาจ้างแม่บ้าน  ตัวอย่าง สัญญาจ้างแม่บ้านเทมเพลตสัญญาจ้างทำของสัญญาจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัย” หรือ สัญญาจ้างรักษาความปลอดภัยแต่ก็ยังหาสัญญาจ้างทำของที่เข้ากับความต้องการและเหมาะสมกับสถานะการณ์ของตัวเองไม่เจอหรืออาจจะไม่แน่ใจว่าต้องทำเทตเพลตของสัญญายังไงใช่ไหม อย่าได้กังวลไป การสร้างสัญญาจ้างทำของที่ครบถ้วน สมบูรณ์ เหมาะสมกับความต้องการ ให้เป็นเรื่องของทีม Lawsnote DocPie ในการบริการทำหนังสือสัญญาจ้างทำของให้คุณ

Lawsnote DocPie ทีมทนายความที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในการแนะนำและให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ช่วยเหลือในการเจรจาว่าความระหว่างคู่สัญญาและเขียนสัญญาข้อตกลงอย่างมีประสิทธิภาพในทางกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาทที่จะตามมา

คลิกลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อทีมทนายความผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อบริการคุณ