หน้าหลัก|ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย » การเขียนสัญญาซื้อขายรถยนต์: ขั้นตอนสำคัญและข้อควรระวัง

การเขียนสัญญาซื้อขายรถยนต์: ขั้นตอนสำคัญและข้อควรระวัง

การเขียนสัญญาซื้อขายรถยนต์เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในกระบวนการซื้อขายรถยนต์ เพราะเอกสารสัญญาซื้อขายรถยนต์นี้จะเป็นหลักฐานทางกฎหมาย
เพื่อยืนยันรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หากเขียนสัญญาไม่รัดกุมหรือมีข้อผิดพลาด ก็อาจเกิดปัญหาขึ้นในภายหลังได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนการซื้อขายรถยนต์ที่ถูกต้อง พร้อมทั้งข้อควรระวังต่าง ในการเขียนสัญญาซื้อขายรถยนต์ เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำธุรกรรมได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย ป้องกันข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

การทำสัญญาซื้อขายรถยนต์เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายรถยนต์ใหม่หรือรถยนต์มือสอง สัญญาซื้อขายรถยนต์จะช่วยป้องกันปัญหา
และข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังได้ เพราะเป็นเอกสารที่ระบุข้อตกลงและเงื่อนไขต่าง ในการซื้อขายรถยนต์ไว้อย่างชัดเจน

1.1 สัญญาซื้อขายรถยนต์คืออะไร

สัญญาซื้อขายรถยนต์ คือ เอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายรถยนต์ ที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขายรถยนต์ เช่น ยี่ห้อ รุ่น ปี สี เลขทะเบียน ราคา เงื่อนไขการชำระเงิน การโอนกรรมสิทธิ์ และข้อตกลงอื่น ที่เกี่ยวข้อง การทำสัญญาซื้อขายรถยนต์จะช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีหลักฐานยืนยันการทำธุรกรรมและป้องกันข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นภายหลังได้

1.2 ประโยชน์ของการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์

การทำสัญญาซื้อขายรถยนต์มีประโยชน์หลายประการ ได้แก่

  • ป้องกันปัญหาและข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะสัญญาจะระบุข้อตกลงและเงื่อนไขต่าง ไว้อย่างชัดเจน
  • ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงทางกฎหมาย ในกรณีที่มีปัญหาหรือข้อพิพาทเกิดขึ้น สามารถใช้สัญญาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้
  • กำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ซื้อและผู้ขายไว้อย่างชัดเจน ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุในสัญญา

1.3 ผลทางกฎหมายของสัญญาซื้อขายรถยนต์

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การซื้อขายสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป หากไม่มีการวางมัดจำหรือชำระเงินบางส่วน จะต้องทำสัญญาเป็นหนังสือและมีการลงลายมือชื่อของฝ่ายที่ต้องรับผิด มิฉะนั้นจะฟ้องร้องบังคับคดีกันไม่ได้

ดังนั้น ไม่ว่าจะทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ด้วยตนเอง หรือใช้แบบฟอร์มสำเร็จรูป ควรระบุรายละเอียดและเงื่อนไขที่สำคัญให้ครบถ้วนชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง และสามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ได้จริง

2. ขั้นตอนการเขียนสัญญาซื้อขายรถยนต์

การเขียนสัญญาซื้อขายรถยนต์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำอย่างรอบคอบและครบถ้วน เพื่อให้การซื้อขายเป็นไปด้วยความราบรื่นและไม่เกิดปัญหาในภายหลังโดยมีขั้นตอนหลัก ดังนี้

2.1 รวบรวมข้อมูลสำคัญสำหรับการทำสัญญา

ก่อนลงมือเขียนสัญญา ผู้ซื้อและผู้ขายควรเตรียมเอกสารประกอบสัญญาซื้อขายรถยนต์ให้พร้อม ซึ่งประกอบด้วย

  • บัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อและผู้ขาย
  • สำเนาทะเบียนรถยนต์
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนรถยนต์
  • ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
  • ใบเสร็จรับเงิน(กรณีผ่อนชำระ)

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างละเอียดทั้งภายนอกและภายใน เช็คเลขไมล์ เลขเครื่องยนต์ เลขตัวถัง ตรวจสอบประวัติการซ่อมและความเสียหายต่าง ให้ตรงกับที่แจ้งไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาทในอนาคต

2.2 ร่างเนื้อหาสัญญาซื้อขายรถยนต์ให้ครบถ้วน

ในการร่างสัญญาซื้อขายรถยนต์ ต้องมีรายละเอียดข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย โดยควรระบุหัวข้อสำคัญดังนี้

  1. รายละเอียดการซื้อขาย
  2. ข้อมูลรถยนต์ เช่น ยี่ห้อ รุ่น ปี สี หมายเลขเครื่องยนต์/ตัวถัง
  3. ชื่อที่อยู่ผู้ซื้อและผู้ขายและรายละเอียดที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้
  4. ราคาที่ตกลงซื้อขาย
  5. วิธีการชำระเงิน เช่น เงินสด ผ่อนชำระ
  6. รูปแบบการส่งมอบรถยนต์
  7. ความรับผิดในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา
  8. เงื่อนไขการรับประกัน (ถ้ามี)

ทั้งนี้ ควรมีการระบุเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ด้วย เช่น การคืนรถยนต์ในกรณีที่พบปัญหาภายหลัง เป็นต้น

2.3 ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาในสัญญา

หลังจากร่างสัญญาเสร็จแล้ว ต้องตรวจทานความถูกต้องของข้อมูลในสัญญาอีกครั้ง โดยเฉพาะรายละเอียดรถยนต์ ราคา วิธีการชำระเงิน เงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ ความรับผิดของคู่สัญญา และข้อตกลงอื่น เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

แนะนำให้ใช้แบบฟอร์มสัญญาซื้อขายรถยนต์แบบมาตรฐาน ซึ่งหาได้ง่ายทั้งในรูปแบบไฟล์ Word และ PDF จากนั้นให้ผู้ซื้อและผู้ขายลงนามในสัญญาอย่างน้อย 2 ฉบับ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานของทั้งสองฝ่าย

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการเขียนสัญญาซื้อขายรถยนต์แล้ว ผู้ซื้อต้องนำสัญญาและเอกสารประกอบสัญญาซื้อขายรถยนต์ไปดำเนินการแจ้งเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์โดยปกติแล้ว เมื่อทำการยื่นเรื่องโอนเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะใช้เวลารอเล่มทะเบียนรถยนต์ภายใน 15 วันทำการ และต้องทำการแจ้งนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่โอน หากไม่ได้ดำเนินการจะมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท แม้ว่าจะดำเนินการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้ซื้อยังควรจะต้องเก็บสัญญาซื้อขายไว้เป็นหลักฐานสำคัญ เพราะเอกสารเหล่านี้จะเป็นตัวยืนยันสิทธิในการเป็นเจ้าของรถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

3. ข้อควรระวังในการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์

เมื่อทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ ผู้ซื้อควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลรถยนต์ให้ตรงกับรถยนต์ตัวจริง ทั้งหมายเลขทะเบียน เลขเครื่องยนต์ เลขตัวถัง ประวัติการใช้งานรถยนต์ การซ่อมบำรุง จำนวนเจ้าของก่อนหน้า และจำนวนระยะทางที่วิ่งไปแล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลรถที่ครบถ้วนและลดความเสี่ยงในการซื้อรถยนต์ที่มีปัญหา นอกจากนี้ ควรตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้ละเอียดทั้งภายในและภายนอก เช่น รอยบุบ ขีดข่วน สีซีด สนิม เบาะ แผงควบคุม เครื่องเสียง แอร์ รวมถึงเครื่องยนต์และระบบช่วงล่าง

ข้อควรระวังอีกประการคือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ขายเป็นเจ้าของรถยนต์จริงและมีสิทธิ์ในการขายรถยนต์ โดยตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น เล่มทะเบียนรถยนต์ ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีรถและประกันภัย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง และที่สำคัญคือ ไม่ควรทำการโอนลอยหรือโอนกรรมสิทธิ์ก่อนได้รับเงินครบจำนวนและรับมอบรถยนต์ เพื่อป้องกันการถูกโกง

การทำสัญญาซื้อขายรถยนต์อย่างรอบคอบและระมัดระวังจะช่วยให้ผู้ซื้อได้รถยนต์ที่ตรงกับความต้องการ ในราคาที่เหมาะสม และไม่ประสบปัญหาในภายหลัง